11 มกราคม 2565 : นนทบุรี 11 ม.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายใน นำข้อห่วงใยรัฐมนตรีพาณิชย์ราคาไข่ไก่ที่ขอปรับขึ้น 20 สต.ต่อฟองเมื่อวานนี้ไปถกกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่อีกรอบ ก่อนอนุมัติปรับราคาขึ้น โดยขอตรึงราคาเนื้อไก่หน้าฟาร์ม ขายปลีก 6 เดือน ส่วนหมูธงฟ้า 150 บาทต่อกิโลกรัม หากได้งบกลางมา เตรียมขยายพื้นที่จุดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 1,000 จุดทั่วประเทศ ย้ำนำเข้าหมูต่างประเทศทุกส่วนต้องมาพิจารณาร่วมกัน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่ากรมฯจะนำข้อห่วงใยของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ให้กรมฯดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราคาไข่ไก่ และเนื้อไก่ ที่มีข่าวทยอยปรับตัว โดยราคาเนื้อไก่ ที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการบริโภคที่สูงขึ้นนั้น ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการทั้งผู้เลี้ยงไก่ ผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออก รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตเนื้อไก่รายใหญ่ และกรมปศุสัตว์ ให้ตรึงราคาไก่ทั้งหน้าฟาร์ม และราคาขายปลีกให้คงราคาเดิมในช่วงก่อนหน้า
ทั้งนี้ แยกเป็นไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม จะตรึงไว้ที่ 33 บาท 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม ไก่สด ทั้งรวมเครื่องใน และไม่รวมเครื่องใน 60-65 บาทต่อกิโลกรัม เนื้อน่องติดสะโพก น่อง และสะโพก ที่ 60-65 บาทต่อกิโลกรัม และเนื้อส่วนอก กิโลกรัมละ 65-70 บาท ส่วนในระยะยาว ให้กรมปศุสัตว์และผู้เลี้ยงเร่งเพิ่มการผลิตโดยเร่งด่วน ซึ่งการเลี้ยงไก่ใช้ระยะเวลาประมาณ 45 วัน
ส่วนราคาไข่ไก่ หลังจากเมื่อวานนี้ (10 มค) สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด ได้ประกาศใช้ราคาแนะนำไข่คละ หน้าฟาร์ม เป็นฟองละ 3 บาท หรือ ปรับขึ้นฟองละ 20 สตางค์ หรือ ขึ้นแผงละ 6 บาทไปแล้วนั้น โดยจะหารือกับกลุ่มผู้เลี้ยงอีกครั้งในวันนี้ (11 ม.ค.) เพื่อตรวจสอบโครงสร้างต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบัน ต้นทุนการผลิตต่อฟอง อยู่ที่ 2 85 บาท เพื่อดูว่าการปรับขึ้นในครั้งนี้ เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่จะได้พิจารณาความเป็นไปได้ในการขอความร่วมมือให้ตรึงราคาไข่ไก่อีกครั้ง แต่ต้องดูแลไม่ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงทั้งไก่เนื้อ และไก่ไข่ ได้รับผลกระทบด้วย จึงเตรียมหารือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ เพื่อเชื่อมโยงอาหารสัตว์ไปยังผู้เลี้ยงรายย่อยกันต่อไป
นอกจากนี้ ปัญหาราคาหมูแพงนั้น ขณะนี้ กรมการค้าภายใน อยู่ระหว่างพิจารณา เพื่อเสนอขอ งบกลาง มาชดเชยราคาหมูเนื้อแดง ในโครงการพาณิชย์ลดราคา ในกิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อให้สามารถขยายโครงการออกไปได้ หลังจากจะสิ้นสุดในสิ้นเดือนมกราคมนี้ และขยายจุดจำหน่ายหมูราคาถูก จากปัจจุบันมี 667 จุดทั่วประเทศ โดยในระหว่างนี้ จะขอความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการสถานีบริการนำ้มัน เตรียมความพร้อมเปิดจุดจำหน่าย เพิ่มเติมอีก ไม่ต่ำกว่า 1,000 จุด ซึ่งจะเน้นจุดที่ประชาชนเข้าถึง แต่หากจุดไหนไม่เหมาะสมก็จะยุบจุดไปอยู่จดที่ประชาชนเข้าถึงมากแทน
อย่างไรก็ตาม ส่วนความกังวลว่าราคาหมูจะพุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 300 บาทในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น ประเมินว่าขณะนี้ราคาหมูเริ่มทรงตัวแล้ว เพราะผู้บริโภคหันไปเลือกซื้อเนื้อสัตว์อื่นทดแทนมากขึ้น และชาวไทย เชื้อสายจีนมีการปรับรูปแบบการไหว้ จึงเชื่อว่าราคาจะยังทรงตัวเท่ากับในช่วงนี้ ซึ่งราคาเนื้อหมูโดยเฉลี่ยขณะนี้ราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่ 108 บาทต่อโลกรัม ราคาหมูหน้าเขียงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 180-200 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ประเด็นการพิจารณานำเข้าหมูจากต่างประเทศนั้นกรมการค้าภายใน ไม่สามารถกำหนดได้ แต่จะต้องร่วมกันพิจารณาหลายหน่วยงาน เพราะต้องคำนึงถึงหลายภาคส่วนที่จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
