8 ธันวาคม 2564 : รัฐมนตรีพาณิชย์ปลื้มยอดค้าชายแดนและผ่านแดนช่วง 10 เดือนปีนี้ พุ่งสูงถึง 860,436 ล้านบาท โดยเชื่อยอดทั้งปีเกินเป้าหมายแน่ พร้อมประเมินทิศทางปี 65 ยังเป็นบวกร้อยละ 6-8 ซึ่งมีปัจจัยหลายด้านหนุน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงยอดการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ประจำเดือนตุลาคม 2564 โดยคู่ค้าสำคัญ 7 ประเทศ คือ เมียนมา มาเลเซีย ลาว เวียดนาม จีน สิงคโปร์และกัมพูชารวมมียอดมูลค่า 148,803 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 32.07% และเฉพาะส่งออกมูลค่าสูงถึง 82,068 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 31.48 ไทยได้ดุลการค้าถึง 15,333 ล้านบาท ขณะที่ยอดการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วง 10 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. 2564 รวม 10 เดือน มูลค่า 1,424,345 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 31.72 เป็นตัวเลขส่งออกมีมูลค่า 860,436 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 37.41 ทำให้ 10 เดือนไทยได้ดุลการค้าชายแดนกับผ่านแดน 296,527 ล้านบาท โดยถือว่าทำตัวเลขได้ทะลุเป้าที่กำหนดไว้ทั้งปีแล้ว เพราะยังไม่ถึงเดือนธันวาคม กำหนดเป้าการเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 6 คิดเป็นมูลค่า 789,198 ล้านบาท แต่ขณะนี้เกินแล้ว 10 เดือนแรกมีมูลค่า 860,436 ล้านบาท มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีถึง 48,251 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูรายประเทศ เฉพาะส่งออก 1.เมียนมา ขยายตัวสูงสุด เฉพาะเดือนตุลาคมร้อยละ 111มูลค่า 10,545 ล้านบาท 2.มาเลเซีย ขยายตัวร้อยละ 55.86เป็นมูลค่าส่งออก 18,794 ล้านบาท 3.สปป.ลาว ขยายตัวร้อยละ 32.93 มูลค่า 10,556 ล้านบาท 4.จีนขยายตัวร้อยละ 28.3 มูลค่า 10,526 ล้านบาท 5.กัมพูชา ขยายตัวร้อยละ 20.01 มูลค่า 12,387 ล้านบาท 6.เวียดนาม ขยายตัวร้อยละ 18.90 มูลค่า 3,718 ล้านบาท และ 7.สิงคโปร์ ขยายตัวร้อยละ 9.62 มูลค่า 3,628 ล้านบาทเป็นต้น
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดนเป็นบวกต่อเนื่อง คือ ทิศทางการค้าโลกยังขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลในทางบวกกับประเทศคู่ค้า ชายแกนและผ่านแดนใดของไทย ประการที่สอง ค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคายังสามารถสู้กับประเทศคู่แข่งได้ ประการที่สาม การผลักดันการเปิดด่านของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนในรูป กรอ.พาณิชย์ ช่วยให้การส่งสินค้าของไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านคล่องตัวขึ้น มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ล่าสุดสามารถเปิดด่านอีก และเปิดด่านเพิ่มเติม คือ ด่านตากใบกับบูเก๊ะตาที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งการเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย สามารถเปิดครบแล้วทั้ง 9 ด่าน ทำให้ด่านเปิดได้แล้วรวมกัน 48 ด่าน และมีแนวโน้มที่สามารถเปิดได้ในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้าอีกหนึ่งด่าน คือ ด่านหนองเอี่ยนที่จังหวัดสระแก้วตรงข้ามกับชายแดนกัมพูชา ตนได้ประสานงานกับคณะรัฐมนตรีและเป็นนโยบายที่ต้องการเร่งรัดการเปิดด่าน ซึ่งฝั่งกัมพูชาตอบรับแล้ว ล่าสุดทางเบี่ยงที่ติดปัญหาเริ่มลงมือก่อสร้างแล้วคาดว่าปลายปีนี้น่าจะเสร็จได้ ซึ่งเมื่อวานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตนได้คุยกับคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยสั่งการให้ทำเส้นทางสัญจรเสร็จสามารถเปิดด่านได้ ขอให้ศุลกากรใช้คอนเทนเนอร์ในการเป็นที่ทำการชั่วคราวก่อน และประการที่สี่ โครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก มีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ส่งออกคล่องตัวขึ้น จนถึงวันที่ 3 ธ.ค.สามารถทำตัวเลขจับคู่กู้เงินแล้วถึง 3,300 ล้านบาท
“อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งออกและการค้าชายแดนผ่านแดนซึ่งจะนำมูลค่าการค้า นำรายได้เข้าประเทศนั้น มีนโยบายผลักดันให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศให้หมด นอกจากนั้นเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟจีน-ลาว ได้ให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์และคณะ เตรียมหารือประชุมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ไทยได้ใช้ประโยชน์เส้นทางรถไฟนี้เป็นประโยชน์ที่สุดนอกจากการเดินทางของประชาชนแล้วยังหมายถึงการขนส่งสินค้าออกไปด้วย ซึ่งจะได้เชิญผู้ส่งออกผู้เกี่ยวข้องมาหารือเร็วๆนี้ ส่วนมาตรการป้องกันโรคระบาดตัวใหม่นั้นต้องแยกกัน เรื่องเกี่ยวกับคนข้ามแดนนั้นเป็นเรื่องที่ทางสาธารณสุขและ ศบค.
จะเป็นผู้ดำเนินการ แต่ในส่วนของรถสินค้าข้ามแดนต่างๆมีการเฝ้าระวังทั้ง 2 ฝั่งอยู่แล้วจึงดำเนินการส่งสินค้าออกต่อไปได้ และขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียนมา”นายจัรินทร์กล่าว