16 ธันวาคม 2564 : กรุงเทพฯ 16 ธ.ค.-มหาลัยหอการค้าไทยเผย 10 ธุรกิจเด่นปี 65 ทั้งธุรกิจการแพทย์,อีคอมเมิร์ซ,fintech ยังขยายตัวดีอยู่ หลังท่องเที่ยวกลับมาได้หลังเปิดประเทศ มั่นใจ GDPปี65โต4.2% ย้ำโอไมครอนกระทบเศรษฐกิจน้อย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้จะขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 1.3-1.5 ในขณะที่เศรษฐกิจปีหน้า คาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.2 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลายลงจากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง คาดว่าจะเหลือหลักร้อยในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 และการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก เนื่องจากแม้จะมีการติดเชื้อแต่ไม่ได้ส่งผลรุนแรงทำให้มีผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในขณะที่สหรัฐอเมริกา มองว่า เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องและหันมากังวลกับอัตราเงินเฟ้อที่อาจขยายตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 2-3 ครั้งในปีหน้า เนื่องจากมั่นใจว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัว และสำหรับการส่งออกของไทย เชื่อว่า จะเติบโตได้ร้อยละ 5 ในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยประคับประคองให้เศรษฐกิจเติบโตได้ โดยเฉพาะเม็ดเงินจากโครงการคนละครึ่ง หรือแนวโน้มของการผ่านโครงการช้อปดีมีคืนหรือคนละครึ่งเฟส4 ใช้ได้ทันในช่วงปลายปีนี้และไตรมาสที่ 1 ปีหน้า ส่งผลทำให้รับรู้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2 ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เชื่อว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.5 ไปจนถึงช่วงไตรมาสที่ 3 และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4
นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง 10 ธุรกิจเด่นปี 2565 พบว่า ธุรกิจที่โดดเด่นอันดับ 1 คือ ถือ ธุรกิจการแพทย์ความงามและอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค รองลงมา คือธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ ตลาดกลางทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างผู้บริโภคกับผู้ให้บริการ ธุรกิจโลจิสติกส์ คลังสินค้า เดลิเวอรี่และธุรกิจfintech จากนั้นจะเป็นธุรกิจประกันภัยประกันชีวิตการผลิตเวชภัณฑ์ การขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ธุรกิจอาหารเสริม ธุรกิจแปรรูปยางพารา ธุรกิจจัดทำContent ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ โมเดิร์นเทรด ธุรกิจให้ความบันเทิง ธุรกิจยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์แนวราบ
นอกจากนี้ ธุรกิจเด่นอันดับ 10 ในปี 2565 คือธุรกิจท่องเที่ยวและบริการต่อเนื่อง ซึ่งสามารถกลับมาเป็นธุรกิจเด่นอีกครั้งหลังจากรัฐบาลมีการเปิดประเทศและผ่อนคลายให้มีการเดินทางภายในประเทศมากขึ้น รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในปีหน้า แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจดังกล่าว คือการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการปิดประเทศหรือการใช้มาตรการต่างๆที่ยังมีความไม่แน่นอนในอนาคตขณะที่ 10 ธุรกิจดาวร่วง ในปี 2565 คือธุรกิจที่ไม่มีการใช้นวัตกรรมไม่ได้มีการใช้เทคโนโลยีหรือสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนได้ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามยุคสมัย เช่น ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจฟอกย้อม ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ วารสาร แผ่นพับ ธุรกิจโรงพิมพ์และคนกลางขนส่ง ธุรกิจผลิตดอกไม้ประดิษฐ์ ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าโหล ร้านถ่ายรูป ของเล่นเด็ก และธุรกิจ Call Center เนื่องจากจะมีการใช้ AI เข้ามาทดแทนคนทั้งหมดเป็นต้น